“สาหร่าย” เมื่อกล่าวถึงคำนี้ คนทั่วไปมักนึกถึงพืชน้ำที่นิยมนำมาประดับในตู้ปลา หรือ พืชน้ำบางชนิดที่มีคำเรียกนำหน้าว่า สาหร่าย เช่น สาหร่ายหางกระรอก สาหร่ายฉัตร หรือสาหร่าย ข้าวเหนียว เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่สาหร่ายที่แท้จริง แต่ถูกจัดให้เป็นพืชชั้นสูง เนื่องจากมีองค์ประกอบต่างๆ ที่เหมือนกับพืชชั้นสูง สาหร่ายในวงวิทยาศาสตร์ หมายถึง สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ ส่วนใหญ่มี ขนาดเล็กมาก จนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ช่วยในการศึกษารายละเอียด มีการดำรงชีพหลายแบบอาจอยู่แบบอิสระ หรืออยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่น และถูกจัดให้เป็นจุลินทรีย์กลุ่มหนึ่งด้วย สามารถพบได้ในสถานที่ที่มีความชื้น เช่น แหล่งน้ำจืด แหล่งน้ำเค็ม ดินแฉะ หรือแม้แต่ตามกระถางต้นไม้ ภาพที่ท่านกำลังมองดูอยู่ด้านล่าง มิใช่สิ่งมีชีวิตจากนอกโลกแต่ประการใด แต่มันคือสาหร่ายเซลล์เดียว ที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไป
นักวิทยาศาสตร์ได้จำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็นหลายอาณาจักร (Kingdom) โดยเกณฑ์ในการจัดจำแนกมีมากมายหลายเกณฑ์ เช่น โรเบิร์ต เอช วิทเทคเกอร์ (Robert H. Whittaker) อาศัยลักษณะการได้รับสารอาหาร คือ การสังเคราะห์แสง การดูดซึม และการกินอาหาร เป็นเกณฑ์ในการจำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็น 5 อาณาจักร คือ อาณาจักรโมเนอรา (Monera) อาณาจักรโพรทิสตา (Protista) อาณาจักรเห็ดรา (Fungi) อาณาจักรพืช (Plantae) และอาณาจักรสัตว์ (Animalia) นอกจากเกณฑ์ของวิทเทคเกอร์แล้ว ยังมีเกณฑ์การจำแนกของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นอีก แต่ไม่ว่าจะใช้เกณฑ์ใดในการจำแนก หรือจะแบ่งสิ่งมีชีวิตออกเป็นกี่อาณาจักรก็ตาม สาหร่ายก็ยังคงจัดอยู่ในอาณาจักรโพรทิสตา ส่วนพืชน้ำบางชนิดที่มีคำว่า “สาหร่าย” นำหน้า ไม่ได้จัดอยู่ในอาณาจักรโพรทิสตา แต่ถูกจัดอยู่ในอาณาจักรพืชด้วยเหตุผลตามที่กล่าวมาแล้ว
จากการศึกษาพบว่า สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน เป็นพวกแรกที่อุบัติขึ้นบนโลกนี้ หลายคนคงเคยลิ้มชิมรสชาติของสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินมาบ้างแล้ว ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม โดยเฉพาะผู้ที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริม คงรู้จักชื่อ สาหร่ายสไปรูไลน่า (Spirulina) เป็นอย่างดี นี่แหละเจ้าสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่กล่าวถึง จากการศึกษาพบว่า สาหร่ายเหล่านี้มีคุณค่าทาง โภชนาการสูง ประกอบไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ มากมาย เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ บี ดี และเค เป็นต้น จึงเป็นช่องทางทางการตลาดทำให้เกิดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมขึ้นมากมายหลายยี่ห้อ นอกจากสไปรูไลน่า ยังมีสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินชนิดอื่นอีกที่มีประโยชน์ เช่น แอนาบีน่า (Anabaena) เป็นสาหร่ายที่อาศัยอยู่ร่วมกับแหนแดง ช่วยทำหน้าที่ในการตรึงไนโตรเจน พบว่าหากเลี้ยงแอนาบีน่าไว้ในนาข้าวจะสามารถช่วยตรึงไนโตรเจนให้แก่ข้าวได้ในปริมาณเดียวกับการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนลงในนาข้าว 5-6 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ปัจจุบันมีการนำมาสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่มีชีวิตมาทำเป็นปุ๋ยชีวภาพเพื่อใช้ในนาข้าว ปุ๋ยชีวภาพตามความหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีพ.ศ. 2544 คือ ปุ๋ยที่ได้จากการนำจุลินทรีย์ที่มีชีวิตมาใช้ในการปรับปรุงดินทางชีวภาพ ทางกายภาพ และทางชีวเคมี ซึ่งจุลินทรีย์ที่นำมาใช้ในที่นี้ก็คือ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินนั่นเอง โดยกำหนดให้มีเซลล์ของสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินไม่น้อยกว่า 100,000 เซลล์ต่อกรัมของวัสดุรองรับหรือผลิตภัณฑ์ และจะต้องเป็นสาหร่าย สีเขียวแกมน้ำเงินที่ตรึงไนโตรเจนได้ เมื่อนำไปใส่ในนาข้าวแล้ว จะสามารถเจริญเติบโตเพิ่มจำนวน และดำเนินกิจกรรมตรึงไนโตรเจนได้ ซึ่งคือ การดึงก๊าซไนโตรเจนจากอากาศมาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปที่พืชสามารถใช้ได้
หลายคนคงไม่ทราบว่ายาสีฟันที่เราใช้กันทุกวันจะเกี่ยวข้องกับสาหร่ายด้วย สาหร่ายกลุ่มไดอะตอม (Diatom) มีสารจำพวกซิลิกา (Silica) เป็นองค์ประกอบ จึงสามารถนำไปผสมกับยาสีฟัน ผงขัดโลหะ สีสะท้อนแสง ใช้ในการทำไดนาไมท์ (Dynamite) และใช้ในการทดสอบคุณภาพเลนส์ของกล้องจุลทรรศน์ ไดอะตอมเมื่อตายไปเปลือกและหยดน้ำก็จะทับถมสะสมอยู่ใต้ผืนพิภพ เมื่อเวลาผ่านไปนาน ก็จะกลายเป็นแหล่งน้ำมันปิโตรเลียมที่สำคัญของโลกได้อีกด้วย
สาหร่ายที่มีจำนวนมากที่สุดคือ สาหร่ายสีเขียว เช่น ซีนีเดสมัส (Scenedesmus) คลอเรลลา (Chlorella) เพดิแอสทรัม (Pediastrum) เป็นสาหร่ายที่มีโปรตีนสูง จึงนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารสัตว์น้ำ หรืออาจใช้เป็นอาหารโดยตรงให้แก่ลูกสัตว์น้ำ สไปโรไจร่า (Spirogyra) หรือ เทาน้ำ มักนำมาใช้ในการทำแกงจืด สาหร่ายกลุ่มนี้เป็นสาหร่ายที่มีความสำคัญอย่างมาก เป็นผู้ผลิตที่มีจำนวนมากที่สุดในระบบนิเวศ ช่วยทำให้แหล่งน้ำมีความบริสุทธิ์มากขึ้น เพราะสามารถตรึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ทำให้เกิดการปลดปล่อยก๊าซออกซิเจนออกสู่แหล่งน้ำ
สาหร่ายสีน้ำตาล เช่น ซาร์กัสซั่ม (Sargassum) มีแร่ธาตุไอโอดีนสูง จึงนิยมนำมาเป็นอาหารทั้งของคนและสัตว์เลี้ยง พาดิน่า (Padina) ฟิวกัส (Fucus) มีโปแตสเซียมสูง นิยมนำไปใช้ในการผลิตปุ๋ย ลามินาเรีย (Laminaria) มีสารอัลจิน (Algin) เป็นองค์ประกอบ นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมหลายด้าน เช่น ทำเครื่องสำอาง แชมพู สบู่ ครีมโกนหนวด ครีมใส่ผม เคลือบกระดาษ ผสมในลูกกวาดและไอศกรีม เป็นต้น
นอกจากสาหร่ายที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสาหร่ายกลุ่มอื่นอีกหลายกลุ่มที่มีประโยชน์ เช่น สาหร่ายสีแดง มีการสะสมสารในรูปของแป้งฟลอริเดียน (Floridean starch) นิยมนำมาทำวุ้นที่รับประทานกันทั่วไป และวุ้นที่เป็นองค์ประกอบของอาหารเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ สาหร่ายกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellate) เป็นอาหารแก่สัตว์น้ำในแหล่งธรรมชาติ สาหร่ายไฟ เช่น นิเทลล่า (Nitella) ใช้ประดับเพื่อความสวยงามในตู้เลี้ยงปลา เป็นต้น
ประโยชน์จากสาหร่ายยังมีอีกมากมาย โดยเฉพาะประโยชน์ทางด้านชีวภาพหากนำมาใช้ทดแทนสารเคมีได้ จะช่วยในการลดปัญหาด้านมลพิษสิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้นปัจจุบันนักวิจัยได้พยายามหาวิธีการใช้ประโยชน์จากสาหร่ายให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยในการรักษาสภาพแวดล้อมและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย การศึกษาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากสาหร่ายจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
เทพๆ
ตอบลบหล่อได้อีก ๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบเอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มั่นมั๊กมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แน่จัยแล้นเหรอ ที่อัพรูปท่านกวงมา
นี้ แหละ หลวง กวง
ตอบลบLord of Bio Hazard
เค้า คือ NEMESIS
*-*